Saturday, February 03, 2007

1 วันสุดท้าย

วันนี้รู้สึกว่าเวลาทุกวินาทีมีค่ามากอ่ะ ไม่ว่าจะกระดิกตัวไปไหน ทำอะไรอยากให้เวลามันผ่านไปช้าๆ

เคยได้ยินคนเค้าตั้งคำถามประมาณว่า ..
1. "ถ้าคุณมีชีวิตเหลืออยู่เพียงหนึ่งวัน คุณจะทำอะไร?"
2. "ถ้าอีก 7 วันโลกจะแตก คุณจะทำอะไร?"
3. "ถ้า ..." สารพัด..

คำถามแต่ละคำถาม เหมือนกันตรงที่ .. คุณจะทำอะไร ในเวลาอันน้อยนิด ก่อนที่คุณจะต้องจากไป

ตอนนั้นก็ได้แต่ตอบไปสารพัด แต่พอมาวันนี้ ต้องเจอเหตุการณ์นี้เข้าจริงๆ ซึมเลย
สิ่งเดียวที่คิดในใจตลอด คือ .. อยากให้เวลาเดินช้า ๆ ว่ะ ..

อยากอยู่กะแม่ให้นานๆงับ

งร่า วันนี้ จ๋อย เลย .. T_T

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ซึ้ง ภาค 2
คำเตือน ฟังแล้วระวังน้ำตาไหลพราก .. T_T


หนึ่งคำสัญญา - แอนเดรีย


"...แม้ไม่อาจจะมองเห็นกันด้วยตา แต่ก็รู้ว่าเราจะมีความรู้สึกต่างๆที่ดีให้กันและกัน
แม้ไม่อาจจะบอกเล่าความห่วงใยแต่ให้รู้ว่าทุกๆวัน จะมีฉันคนหนึ่งที่เฝ้ามองเธอผ่านฟากฟ้า
หนึ่งคำสัญญา ที่คิดว่ามีค่าพอให้เธอ นั่นคือจะเหมือนเดิมเมื่อกลับมาหา
อาจเป็นแค่เพียงหนึ่งคำที่ได้สัญญา แต่จะรักษามันด้วยหัวใจ
กับทุกเวลา กับทุกนาทีที่ผ่าน คงไม่ใช่เป็นเพียงวันวาน ที่ลบมันง่ายดาย
แต่ขอสัญญาไม่ว่าจะเจอสิ่งใด เธอจะยังคงเป็นส่วนที่งดงามเสมอ ...."

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ไปแระจ้ะ .. โชคดีงับ .. ขอบคุณทุกๆคนหลายๆเด้องับ ...

. . . ข่ อ ย ฮั ก พ ว ก เ จ้ า ห ล า ย เ ด้ อ . . .

^_____^

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Thursday, February 01, 2007

Binded Heart

นี่คือประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานของข้าพเจ้าในช่วงแรก
ตั้งแต่ 18 เมษายน 2548 ถึง 31 มกราคม 2550 ไม่อาจจะเล่ามาเป็นเรื่องราว เป็นฉาก เป็นตอนได้
แต่เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดต่างมีบทสรุปของมันเอง เป็นความรู้สึกต่างๆเหล่านี้


  • สุข
    เกิดหลายครั้งหลายครา จนไม่สามารถนับได้
  • ทุกข์
    ส่วนใหญ่เกิดตอนเจอปัญหาที่ไม่รู้จะแก้อย่างไร
  • เศร้า
    เกิดตอนเมื่อรู้สึกว่าจะมีพี่ และเพื่อนร่วมงานจะออกจากบริษัท
  • ตื่นเต้น
    เมื่อได้ไปทำงานยังไซต์งานต่างๆ รวมทั้งต่างจังหวัด รวมทั้งไป outing ชายทะเล และได้รับรางวัลเตารีดไฟฟ้าในงานเลี้ยงปีใหม่ปี 2549
  • ง่วง
    ตอนไปที่ทรูคืนหนึ่ง อยู่ยันเช้า
  • ชอบ
    ชอบหลายๆอย่าง ชอบบรรยากาศการทำงานที่นี่ รวมทั้งเพื่อนๆพี่ๆร่วมงานทั้งหลาย
  • ไม่ชอบ
    ในการทำงานบางอย่าง แต่ตอนหลังก็เข้าใจ
  • รำคาญ
    นิสัยบางอย่างของคนบางคน ทำให้รู้สึกรำคาญมากในช่วงแรก แต่หลังมาเริ่มชิน และไม่น่ารำคาญเท่าช่วงแรก
  • เบื่อ
    เบื่องานบางอย่าง บางช่วง เมื่อไรจะเสร็จ เช่น รีพอร์ท
  • เซ็ง
    บางครั้งไม่มีอารมณ์ทำงานเท่าไร ปัจจัยน่าจะมาจากการพักผ่อน และปัญหาภายนอกรุมเร้า
  • หิว
    ตอนกลางวันกินข้าวเที่ยงกันเกือบบ่าย เลยหิวบ้างบางวัน บางวันหิวข้าวเย็นแทนเลยต้องลงไปซื้อหมูปิ้งกิน
  • อิ่ม
    เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วก้ออิ่ม บางครั้งอิ่มจังตังอยู่ครบ แล้วแต่ดวง และอารมณ์ของพี่ๆที่เป็นเจ้ามือ หุ หุ
    แล้วก้ออื่มเอมใจ เวลาเล่นกัน หนุกหนานกะเพื่อนๆ แล้วมีความสุขดี
  • อร่อย
    ร้านป้าเตาถ่านบางวันก็ทำต้มยำอร่อย โดยเฉพาะใส่เส้นมาม่าด้วย ชอบข้าวหมูกรอบ ร้านก๊วยจั๊บด้วยอร่อยดี อ้อ .. ร้านบะหมี่จับกังอันนี้ปรุงเองบางครั้งอร่อย ลุงกะป้าให้เยอะมาก
  • เมื่อย
    หลังจากที่ไปทริปเชียงใหม่ งานรับปริญญาตูน แล้วก็เที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ เหนื่อยและเมื่อยโคตร แต่ก็หนุกดี
  • นานจิงโว๊ยย
    อันนี้เป็นความรู้สึกอยู่ช่วงนึงที่เวลามันเดินไปช๊าช้า น๊านน นาน กว่าจะหมดไปวัน ๆ เค้าว่ากันว่าเวลาที่เราไม่มีความสุขเราจะรู้สึกว่าเวลาเดินช้า มารู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าเพราะมีบางสิ่งหายไปนี่เอง
  • เครียด!
    อันนี้รู้สึกตอนแก้ปัญหาเรื่อง Report job ไม่ได้ ตรงที่ font มันไม่ยอมออกมาสวยๆซักที ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว
  • สบายๆ
    มีบางช่วงงานชิวๆ ก้อเปิดเพลงฟัง ทำงานไม่รีบเร่ง รู้สกสบายดี อ่อ . . แล้วก้อตอนพักวันหยุดต่างๆ รู้สึกว่าสบายดี
  • ชิวๆ
    หลังๆเริ่มคล่องกับ FrameWork ของโปรเจคทีทำมากขึ้นแล้ว เริ่มรู้เทคนิคต่างๆมากขึ้น เลยรู้สึกว่าเรื่องโน้นเรื่องนี้เราก็พอจะทำได้ เลยมีกำลังใจมากขึ้นมาหน่อย
  • เหงา
    ตอนพี่ๆเพื่อนๆลาออก ก็รู้สึกเหงาๆลงไปเยอะเลย แล้วยิ่งตูนกับแก้วไปอยู่ทรูอีก เหงามาก ออยไปอังกฤษอีก โอว โน่ว !! เหงาๆ เพราะมองทางซ้ายก้อไม่มีใคร มองทางขวาก็ไม่มีใคร T_T
  • หนุกหนาน
    ตอนเล่นกันกับเพื่อนๆ พี่ๆ เล่นกันมากมาย มีพับเครื่องบินเล่นด้วย อันนี้ช่วงงานเริ่มเบา ดาวโหลดเกมมาเล่นกัน ขำ ขำ
  • ตลก
    หลายเรือ่งอยู่ แอบฟังพี่ๆเมาท์เรื่องคนอื่นๆในวงข้าว ทำเอาฮา ขี้แตก ขี้แตน .. สนุกดี
  • ใจแตก
    ตอนไปเที่ยวผับครั้งแรก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
  • ผูกพัน
    กับบรรยากาศที่นี่และเพื่อนร่วมงานทุกคน ผูกพันกะโต๊ะ กะเก้าอี้ ลิ้นชัก กะของเล่นบนโต๊ะ กะแมลงสาบใต้โต๊ะ โอว ก้อทุกอย่างเลยนั่นแหละ
  • ประทับใจ
    มิตรภาพ ประสบการณ์ และวันเวลาดีดีที่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่
  • ขอบคุณมากๆค่ะ
    ขอบคุณทุกๆคนมากๆ และขอบคุณในทุกๆเรื่องเลยงับ

    มาวันนี้ก็รู้ว่าตัวเองได้อะไรเยอะมากจากการทำงานที่นี่ ..

Wednesday, January 31, 2007

Memorable Quotes

Sam: This is it.
พอกันที
Frodo: This is what?
อะไรพอ
Sam: If I take one more step, it'll be the farthest away from home I've ever been.
ขืนไปต่ออีกก้าวเดียว มันจะไกลกว่าทุกครั้งที่ข้าออกจากบ้าน
Frodo: Come on, Sam.
ไปน่าแซม
Frodo: Remember what Bilbo used to say: "It's a dangerous business, Frodo, going out your door. You step onto the road, and if you don't keep your feet, there's no knowing where you might be swept off to."
จำได้มั๊ยที่บิลโบเคยพูดว่า "
มันเป็นเรื่องที่อันตรายโฟรโด้ ยามที่ก้าวพ้นประตู เราก้าวสู่ถนน ถ้าออกเดินแล้วไม่ก้าวต่อ เราจะไม่รู้ว่าทางสิ้นสุดตรงไหน"

ที่มา: บทบรรยายภาษาอังกฤษจาก Memorable Quotes from The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring
ส่วนบทบรรยายภาษาไทยจาก VCD ที่บ้านจ๊ะ (พยายามจะถอดความภาษาอังกฤษออกมา แต่ท่าจะไม่รอด -_-')

Tuesday, January 30, 2007

ต้นไม้แห่งความลับ






ขอยืมต้นไม้จากเรื่อง My sassy girl มาเก็บความลับไว้มั่งอ่ะ

...............................................

(จนกว่าจะมีความกล้ามากกว่านี้ ฮ่า ฮ่า ความลับจึงจะเปิดเผยออกมา)


อ่า .. แต่หนังเรื่อง My Sassy Girl เองก็มีความลับซ่อนอยู่เหมือนกันนะ

เคยอ่านจาก Forward Mail แต่จำไม่ได้มาก แต่ตอนนั้นพออ่าน Foward mail นี้จบก็ไปนั่งดูหนังอีกรอบ แล้วก็ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องหลายๆอย่างมากขึ้น

ทั้งๆที่ตอนแรกก็ไม่ได้เข้าใจไปทุกฉากหรอก แต่ก็ประทับใจหนังโดยรวมๆ
แต่ยิ่งพอมารู้ความลับเหล่านี้แล้ว ยิ่งชอบใจหนังเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก เพราะเก็บรายละเอียดไว้มากจริงๆ เยี่ยมไปเลย

ความตอนหนึ่งที่จำได้ ก็คือตอนที่คุณลุงมานั่งใต้ต้นไม้แห่งความลับ แล้วก็มาเจอนางเอก
ที่แท้แล้วคุณลุงคนนี้ก็คือพระเอกที่นั่ง UFO ย้อนเวลามาจากโลกอนาคต
เพื่อมาหาคำตอบว่าทำไมนางเอกถึงได้มาตอน 3 ปีให้หลังแทนที่จะเป็น 2 ปี
ชอบประโยคนึงที่ลุงพูดว่า

"หนูรู้มั๊ยคำว่าโชคชะตาคืออะไร?มันคือการสร้างสะพานแห่งความสัมพันธ์ ไปหาความรักแท้ไง"

แล้วก็กบที่อยู่ในไข่ที่ใช้เก็บจดหมายตอนพระเอกมาเปิดอ่าน
(ตอนแรกฉันก็งงว่าเฮ้ย กบมันเข้าไปได้ไงวะ หรือมันนานจัด 2 ปีนี่ทำให้กบมาตั้งรกรากกันแถวนี้)
ที่จริงแล้วมาจาก คุณลุงก็คือพระเอกที่ย้อนเวลามาเป็นคนใส่ลงไป
เพราะผู้กำกับเค้าต้องการสื่อว่ามีคนอื่นเข้ามาอ่านจดหมายแล้วนะ ซึ่งก็คือลุงนี่แหละนั่นเอง
เพราะลุงได้เปรยไว้กับนางเอกตอนมาเปิดจดหมายเหมือนกันว่า "ลุงได้อ่านจดหมายของหนูด้วยนะ"

เป็นไง ล้ำลึกจริงๆ นี่จำได้แค่นี้เองอ่ะ
แต่ของจริงมีมากกว่านี้ คนคิดนี่สุดยอดจริงๆ นับถือๆ
.. เรื่องนี้เป็นหนังในดวงใจเรื่องนึงเลยทีเดียว ..

Quotes from "My Sassy Girl"
+ "ถ้าเราเป็นคู่กัน เราก็จะต้องมาเจอกันเข้าซักวันนึงแน่นอน"
+ "หนูรู้มั๊ยคำว่าโชคชะตาคืออะไร?มันคือการสร้างสะพานแห่งความสัมพันธ์ ไปหาความรักแท้ไง"